ก็มักจะเป็นปัญหาอยู่เสมอค่ะสำหรับใครที่เวลาไปซื้อโทรศัพท์มาแต่ะละครั้งแต่เขาแถมเป็นหูฟังที่มีสายมาให้ ซึ่งสมัยนี้ก็เริ่มไม่เป็นที่นิยมเสียเท่าไหร่เลย จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อหูฟังแบรนด์อื่น ๆ ที่เป็นหูฟังบลูทูธมาใช้งานกันนั่นเอง และวันนี้บทความของเราจึงได้นำเอาหูฟังบลูทูธ JBL มาแนะนำกัน และหากใครที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีนั้นก็หายห่วงเลยค่ะ เพราะวันนี้บทความของเราก็มีข้อมูลเล็ก ๆ น้อยของหูฟังบลูทูธรุ่นนั่นมาแนะนำด้วย และจะมีหูฟังบลูทูธ JBL รุ่นไหนที่น่าใช้บ้างนั้น เราก็มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
8 หูฟังบลูทูธ JBL ซื้อรุ่นไหน ให้ถูกใจตัวเอง มาดูกัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังดี ๆ อยู่แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดีนั้นวันนี้บทความของเราก็มีมาแนะนำค่ะ ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหูฟังจากแบรนด์ JBL นั้นเขามีให้เลือกหลายแบบเลย ต้าจะเอาแบบตามกระแสในช่วงนี้เลยก็คงหนีไม่พ้นหูฟังบลูทูธนั่นแหละค่ะเพราะเขาทำมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในสมัยนี้โดยเฉพาะเลยนั่นเอง อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ง่ายและตอบโจทย์การใช้งานแบบส่วนตัวได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นอย่ารอช้า เรามาดูกันเลยค่ะว่าจะมีหูฟังบลูทูธ JBL รุ่นไหนดีที่น่าซื้อมาใช้งานกัน
1.JBL Endurance Run
JBL Endurance Run สำหรับรุ่นนี้เขาก็จะเป็นหูฟัง In Ear แบบมีสายค่ะ ซึ่งรุ่นนี้นั้นเขาก็จะมาในรูปแบบของหูฟังสำหรับการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ และไม่หลุดง่าย สามารถใส่ออกกำลังกายได้เพลิน ๆ รองรับการใช้งานทั้งบน IOS และ Android
ราคา : 990 บาท
2.JBL Endurance Dive
JBL Endurance Dive เป็นอีกหนึ่งรุ่นค่ะที่ถูกออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกายโดยเฉพาะ ซึ่งหูฟังรุ่นนี้เขาจะเป็นแบบ Wireless ที่นอกจากจะสามารถใส่ฟิตเนสได้แล้ว ก็ยังสามารถใส่ว่ายน้ำได้ ด้วยความที่เขาสามารถกันน้ำกันเหงื่อได้ระดับ IPX7 แถมยังไม่หลุดง่าย จึงทำให้สามารถใส่ว่ายน้ำได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะค่ะ
ราคา : 3,990 บาท
3.JBL Live PRO+ TWS True Wireless In-Ear
JBL Live PRO+ TWS True Wireless In-Ear สำหรับรุ่นนี้เขาก็จะมาในรูปแบบของหูฟัง In Ear ที่มาในสไตล์มินิมอล ซึ่งบอกเลยว่าตัวนี้ตอบโจทย์สำหรับใครที่ต้องการความเรียบง่ายมาก ๆ อีกทั้งยังสามารถที่จะตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดีอีกด้วยเพราะเขามีเทคโนโลยี Adaptive Noise Cancelling ที่สามารถช่วยในปัญหาเรื่องนี้ได้ดีมาก ๆ อีกทั้งยังกันน้ำที่นะดับ IPX4 จึงสามารถใส่ออกกำลังกายได้
ราคา : 6,990 บาท
4.JBL Tune 700 BT Wireless Over
JBL Tune 700 BT Wireless Over สำหรับรุ่นนี้เขาจะมาในรูปแบบของหูฟัง Over Ear ที่สามารถใส่ได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย อีกทั้งยังมีหลากหลายสีให้เลือกใช้งานมาก ๆ ซึ่งหูฟังตัวรี้ก็เป็นหูฟังที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ดี อีกทั้งยังสามารถรับสายผ่านการสัมผัสที่หูฟังได้เลย
ราคา : 3,035 บาท
5.JBL Quantum 50
JBL Quantum 50 เรียกได้ว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งที่ฮิตมาก ๆ ค่ะ ซึ่งตัวไมค์ของเขาให้เสียงที่ชัดมาก ๆ อีกทั้งยังมีปุ่มเปิดปิดไมค์มาให้ด้วย มาในรูปแบบของหูฟัง In Ear แบบมีสาย ใส่สบาย มีความกระชับ เล่นเกมได้แบบไม่เสียอรรถรส
ราคา : 1,390 บาท
6.JBL Wave 100 TWS
JBL Wave 100 TWS สำหรับรุ่นนี้เขาเป็นหูฟังที่มีเสียงเบสค่อนข้างแน่นค่ะ เพราะเขามีระบบ JBL Deep Bass Sound ที่ให้เสียงเบสแน่น เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงเสียงเบสหนัก ๆ มาก ๆ อีกทั้งยังมีหลากหลายสีให้เลือกซื้ออีกด้วยนะ
ราคา : 4,990 บาท
7.JBL C200SI In-Ear
JBL C200SI In-Ear หูฟัง In Ear แบบมีสายที่รองรับการใช้งานบนมือถือทั้งสองระบบเลยค่ะ ซึ่งรุ่นนี้ก็มีดีไซน์ที่มีความเรียบง่าย อีกทั้งมีเสียงที่นุ่มสบาย และยังสามารถเปลี่ยนจุกยางของหูฟังได้ถึง 3 ระดับกันเลยทีเดียว
ราคา : 309 บาท
8.JBL T110BT
JBL T110BT สำหรับรุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เป็นหูฟังแบบ In Ear ซึ่งรุ่นนี้เขาก็จะใช้ระบบเสียงแบบ JBL Pure Bass Sound ที่มีเสียงได้ใจมาก ๆ อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร กันเลยทีเดียว
ราคา : 729 บาท
และนี่ก็คือ 10 หูฟังบลูทูธ JBL ที่เราได้นำมาแนะนำให้ทุกท่านที่กำลังมองหาหูฟัง JBL คุณภาพดี ๆ อยู่แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดีนั้นได้รู้จักกันและนอกจากที่เขาจะมีหูฟังแบบบลูทูธแล้วนั้นหูฟังแบบมีสายเขาก็มีให้เลือกซื้ออีกด้วยนะ เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีสินค้าหรืออุปกรณ์เสริมที่ครบครันเอามาก ๆ อีกทั้งเรื่องของเสียงที่เราได้ใส่หูฟังฟังแล้วก็ดีมาก ๆ เลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่กำลังมองหาหูฟังแบรนด์นี้อยู่นั้น ก็ลองหาซื้อมาใช้งานกันดูสักรุ่นได้เลยค่ะ
อ่านต่อที่ รีวิว 10 หูฟัง Sony รุ่นไหนดี ตัดเสียงรบกวนดีที่สุด 2022
